บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

ความงี่เง่าของศิษย์มหาโชดก

ครูจะเก่งหรือไม่เก่งนั้น โดยหลักการแล้ว นอกจากจะไปสังเกตการณ์การสอน ศึกษาจากตำรา ฯลฯ แล้ว  อีกอย่างหนึ่งซึ่งสำคัญมาก ก็คือ ความสามารถของลูกศิษย์ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง

เท่าที่ศึกษามา ยังไม่เคยพบเห็นลูกศิษย์ของมหาโชดกที่ได้เรื่องได้ราวแม้แต่คนเดียว

หลายปีมาแล้ว มีคนใช้ชื่อนามแฝงว่า “CALAVERITE” ได้นำความงี่เง่าของมหาโชดกกับสาวกมาเผยแพร่ไว้ในสื่อออนไลน์ ผมก็คัดลอกเก็บไว้นานแล้ว 

วันนี้ ถึงคราวเอามาเผยแพร่กันต่อ เพราะ เห็นว่าเป็นข้อความที่เข้าชุดกันกับบล็อกนี้

ก่อนอื่นต้องกล่าวไว้ก่อนว่า ความงี่เง่าของศิษย์มหาโชดกนั้นไม่ใช่เป็นเรื่องที่เก่า หรือล้าสมัยอะไร 

ที่ผ่านมาไม่กี่เดือนนี้ ดร. สนอง วรอุไรศิษย์เอกของมหาโชดกก็ทำเรื่องฉิบหายวายป่วงไปแล้ว ถึงขณะนี้ยังดำดินอยู่เลยไม่กล้าออกไปไหน

เรื่องของเรื่องก็คือ ดร. สนอง วรอุไรไปเชียร์สมีเณรคำว่า เป็นพระอรหันต์ ให้เอาทองคำที่มีทั้งหมดไปถวายสมีเณรคำ

เชียร์ไปได้พักเดียว ความชั่ว ความเลวของสมีเณรคำก็ปรากฏออกมา  ดร. สนอง วรอุไรก็หนีหายไปจากสังคมตั้งแต่บัดนั้น

อ่านข้อความของคุณ CALAVERITE ได้เลย

โดยสาเหตุดังกล่าว จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุกับท่านเจ้าคุณโชดก ที่วัดมหาธาตุช่วงบั้นปลายชีวิตของท่าน ที่ต้องปิดกันให้แซด

อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับมหาโชดกในช่วงบั้นปลายชีวิตนั้น ผมไม่มีความรู้เลย ใครมีความรู้ก็ช่วยกันเอามาเผยแพร่ให้รู้กันให้กว้างขวางออกไปอีก จะเป็นพระคุณอย่างสูง

ท่านเจ้าคุณโชดกท่านเป็นปราชญ์ทางปริยัติจริง แต่ไม่ใช่ทางปฏิบัติ

การศึกษาภาคปฏิบัติของท่านที่พม่านั้น ไม่ได้ผลเท่าที่ควร เพราะท่านมีความตั้งใจจะเอาวิชาหนอมาสอนมากเกินไป

ตรงนี้ผมเห็นด้วยเฉพาะส่วนที่ว่า “ภาคปฏิบัติของมหาโชดกไม่ได้ผลเท่าที่ควร”  ส่วนที่ว่ามหาโชดกเป็น “ปราชญ์ทางปริยัติ” นั้น ผมไม่เห็นด้วย

หลักฐานของผมก็คือ หนังสือที่มหาโชดกเขียนแต่ละเล่มนั้น ขาดมาตรฐานเป็นอย่างมาก มั่ว งง ไม่รู้จริง สับสน  หาสาระที่แน่นอนอะไรไม่ได้

ทราบจากวิทยาศาสตร์บัณฑิต แห่งจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัยท่านหนึ่งเล่าให้ฟัง ซึ่งปฏิบัติกรรมฐานที่พม่ารุ่นเดียวกับท่านเจ้าคุณโชดก แต่ผลการปฏิบัติของท่านเหนือกว่าเจ้าคุณโชดกมาก

ข้อพิสูจน์ที่ทำให้เห็นได้ชัดว่าท่านเจ้าคุณโชดกนั้นยังไม่เข้าใจวิชาหนออย่างท่องแท้ คือ

๑. สามเณรรูปแรกที่วัดมหาธาตุรับรองว่าบรรลุญาณ ๑๖ ทั้งที่พระอาจารย์อาสภะ ค้านว่าน่าจะได้ปฐมฌาณหยาบ

ทางสำนักหนอได้นำสามเณรรูปนี้ไปนั่งโชว์ตัวแข็งตามวัดต่างๆ โด่งดังมากในสมัยนั้น

แต่ไม่สามารถทำให้ตัวแข็งได้ที่วัดปากน้ำ เป็นไปตามที่หลวงพ่อสดบอกให้ศิษย์ท่านทราบล่วงหน้า

ต่อมา สามเณรรูปนั้นสึก กลายเป็นหัวขโมยวัวควายตัวยง บ้านอยู่ใกล้วัดพระพุทธบาตรตากผ้าลำพูน

พระอาจารย์อาสภะนั้นคือ พระอาจารย์ภัททันตะ อาสภเถระ เจ้าอาวาสวัดภัททันตะอาสภาราม ตำบลหนองไผ่แก้ว อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี

พระอาจารย์ภัททันตะ อาสภเถระ ถ้าจำไม่ผิด เมื่อมหาโชดกเรียนไม่จบจากพม่า  ทางพม่าส่งพระมาคุม 2 รูป  พระอาสภะเป็นหนึ่งใน 2 รูปนั้น  พระอาสภะสอนที่วัดมหาธาตุ 10 ปี จึงไปอยู่ที่ชลบุรี

๒. พระที่บรรลุญาณ ๑๖ จากสายหนอ ไปปฏิบัติธรรมที่วิเวกอาศรม ด้วยความอยากเป็นเจ้าสำนักแทนอาจารย์อาสภะ  จึงได้คบคิดกันรุมทำร้ายพระอาจารย์อาสภะ โชคดี พระอาจารย์อาสภะไม่มรณภาพ

พวกบรรลุญาณ ๑๖ ปลอมเหล่านั้น ก็ถูกจับเข้าตะรางไปตามระเบียบ ไปสืบถามตำรวจที่ชลบุรีได้

เรื่องนี้ก็น่าจะเป็นเรื่องจริง  แล้วก็สอดคล้องกับคำวิพากษ์วิจารณ์ของผม คือ สาวกมหาโชดก ดูมันจะบรรลุญาณกันง่ายไป 

เดินพองไป ยุบมา  เดี๋ยวก็ผ่านญาณ 1-2-3 แล้ว  มันจะได้ญาณกันง่ายอะไรขนาดนั้น

๓. ท่านไพรวัลวัดทุ่งกร่าง เล่าว่า ท่านสงสัยว่า ทำไมสามเณรที่อาจารย์รับรองว่าบรรลุญาณ ๑๖ ได้ไม่ถึงอาทิตย์ชกต่อยกัน นี้ก็แสดงว่า สามเณรเหล่านั้นบรรลุญาณ ๑๖ ปลอม

๔. อาจารย์โด่งดังอีกท่านหนึ่ง โม้ว่าบรรลุญาณ ๑๖ เป็นพระโสดาบันของวัดมหาธาตุ แล้วยังคุยโม้ว่า หลังจากนั้นได้ไปเรียนวิชาโหราศาสตร์กับสมเด็จพระสังฆราชอยู่ วัดสระเกศ

แปลกเหนาะ พระโสดาบันยังอยากเรียนวิชาขวางทางนิพพาน

นี้ก็แสดงว่า บรรลุโสดาปลอม แถมไปโม้ต่อว่าดุสิตเป็นชั้นสูงสุดของดาวดึงส์ พระพุทธเจ้าแสดงยมกปาฏิหาริย์ไปโปรดพุทธมารดาที่ดาวดึงส์ด้วยกายทิพย์

๕. สำนักวิเวกอาศรมของอาจารย์อาสภะไม่รับรองผู้จบญาณ ๑๖ สายวัดมหาธาตุ ไปสืบดูก็จะเห็นจริง แต่ไม่ใช่ไปสืบกับพวกที่วัดมหาธาตุส่งไปนะ

ขอให้ไปพิสูจน์ตามที่แนะนำ จะได้ตาสว่าง ไม่เอาอะไรมาตั้งกระทู้ทำนองนี้อีก

ขอแถมอีกเรื่อง หลังจากมีหนังสือวิจารณ์นิทานมุสาวาทเล่มหนึ่งส่งให้คณะ ๕ วัดมหาธาตุฯอ่าน

ปรากฏว่า ประวัติเจ้าคุณโชดกฉบับพิมพ์ใหม่ โดยสำนักพิมพ์กู๊ดมอนิ่ง& วันเวิลด์ ที่บอกว่าพิมพ์ครั้งแรก ที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๔๘ จัดพิมพ์ถวาย มี ๑๗ หน้า ไม่รวมหน้าปก

ถึงกับต้องเอาวันเวลาที่เขาเกณฑ์ให้หลวงพ่อสดไปเรียนกรรมฐานแบบหนอออก เพื่อจะทำให้การจับผิดนิทานโกหกยากขึ้นอีกนิด

ไปขอหนังสือระวัติ พระธรรมธีรราชมหามุนี (โชดก ญาณสิทฺธิ ป.ธ. ๙) เล่มดังกล่าวได้ที่คณะ ๕ วัดมหาธาตุ โทร ๐ ๒๒๒๒-๖๐๑๑, ๐ ๒๒๒๒-๔๙๘๑

หรือว่าเอามะพร้าวมาขายสวน ไม่ว่ากันนะ

จากคุณ : CALAVERITE

นี่คือ ความโง่งี่เง่าของมหาโชดกที่บุคคลอื่นเผยแพร่  จะเห็นว่า ก็สอดคล้องกับข้อเขียนที่ผมได้เขียนไปแล้วเป็นอย่างดี

การที่มหาโชดกมรณภาพแล้วไปนรก ก็สมควรแก่กรรมของท่านแล้ว 






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น